เราควรปรับตัวอย่างไรเมื่อ Facebook ประกาศชัด organic reach ของเพจจะไม่มีอีกต่อไป

หลังจากหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วพบว่า จริงๆถ้าเป็นเพจที่มี content ดีๆก่อให้เกิดการตอบโต้ระหว่างเพจและคนดูรวมถึงมีคนดูมาตอบโต้กันและกันใน content โพสต์ (ตราบใดที่ไม่ใช่ engagement bait) เพจประเภทนี้จะไม่มีผลกระทบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มากนัก ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่ Facebook พยายามนำเสนอมาในสองสามปีมานี้ว่า เพจไม่จำเป็นต้องโพสต์ให้ถี่เกินไปแต่เน้น content ที่ถูกผลิตมาอย่างดีเยี่ยมเหมาะกับกลุ่มคนดูจะดีกว่า

และเมื่อลองประมวลย้อนหลังกลับไปช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ เพจที่ไม่มี media ช่วยแทบจะไม่เกิดประโยชน์แก่เจ้าของเพจเลยเพราะยอด reach ของแต่ละโพสต์นั้นต่ำจนเสียดายค่าทำ content

ดังนั้นสิ่งที่ marketer และ agency เริ่มทำได้เลย (หรือถ้าเพจไหนทำอยู่แล้วก็ทำต่อไป) คือ:

1. คัดสรรค์ content กันมากขึ้น จำนวนน้อยๆแต่เน้นๆ
2. มีงบ media สำหรับทุกโพสต์ที่เราอุตส่าห์ทุ่มเท craft content กัน
3. เริ่มลดและเลิกการจัดกิจกรรมบนเพจ ที่ Facebook จะถูกตัดให้เป็น enagaement bait
4. เพิ่ม Live video เพราะตามสถิติ ได้ยอด enagaement ดีกว่าวิดีโอธรรมดาถึง 6 เท่า*
5. เริ่มหาวิธีสร้าง group ให้กับ brand ซึ่งมันจะยากแน่นอนทั้งการหามุมสร้าง community แบบไม่ hard sell เกินไปและการบริการจัดการ group
6. ใช้ Facebook page เป็นที่ช่องทางหลักในการทำ customer care เพื่อรักษา interaction ระหว่างเพจและผู้บริโภค
7. ลดการพึ่งพา Facebook เป็น referral traffic หลักให้กับ website ต้องเพิ่มเรื่องของ search ads และ platform อื่นอย่างเข่น YouTube และ Twitter ดูบ้าง
8. กลับไปโปรโมตเรื่อง “See first” กับกลุ่มคนดูเพจอีกครั้ง

สุดท้ายนี้ผมมองว่าเมื่อ Facebook กลายเป็น platform หลักในการสื่อสาร เชื่อมต่อ และเสพข้อมูลของคนยุคปัจจุบันไปแล้วดังนั้นการที่เราจะโฆษณาผ่านช่องทาง Facebook จะไม่มีทางฟรีอีกต่อไป ก็เหมือนกับทีวีและสื่อหลักๆสมัยก่อน ไม่มีสื่อไหนให้เราลงโฆษณาฟรีๆคุณต้องซื้อเนื้อที่เพื่อเลือกกับการเข้าถึงคนในสื่อนั้นๆ Facebook เองก็เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพัฒนาและปรับปรุงให้ระบบน่าใช้และรักษาคนให้อยู่กับเขาต่อไปนานๆ เมื่อมีคนอยู่เยอะๆแล้วย่อมหาวิธีขายพื้นที่กับผู้ลงโฆษณาและสร้างผลกำไรไปอีกเรื่อยๆต่อไปเช่นกัน