สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่วงการ marketing, brand, advertising และ social media คือข่าวเรื่อง campaign ใหม่ฉลองครบรอบ 30 ปีของ Nike
- ประเด็นของดราม่าเริ่มต้นที่ campaign นี้ใช้ Colin Kaepernick ชูโรง ทั้ง poster ชุดแรกและเสียงพากย์ในหนังโฆษณา ซึ่งปล่อยออกมาช่วงวันที่ 3 กันยายน
- Colin Kaepernick คือ (อดีต) นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลคนแรกที่ริเริ่มกระแสนั่งคุกเข่าหนึ่งข้างระหว่างเพลงชาติสหรัฐฯในเกมส์ NFL เพื่อแสดงออกถึงการประท้วงเรื่องความไม่เท่าเทียมในสังคมอเมริกันและความรุนแรงของตำรวจที่ปฎิบัติกับคนผิวดำ การกระทำดังกล่าวทำให้เกิดกระแสทั้งสนับสนุนและต่อต้านอย่างรุนแรง ฝ่ายต่อต้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายขวาอนุรักษ์นิยมซึ่งอ้างว่าการคุกเข่าระหว่างเพลงชาติแสดงถึงความไม่ให้เกียรติชาติและทหารที่สละชีพเพื่อชาติ สุดท้ายเรื่องนี้ทำให้ Kaepernick ไม่มีทีมต้นสังกัดมานานสองปีแล้วเพราะไม่มีทีมไหนกล้ารับตัวเข้าไปแล้วต้องเผชิญกับดราม่า
- หลังจาก campaign นี้ออกมา เกิดกระแสบน social #nikeboycott และ #BurnYourNikes ที่ฝ่ายที่เกลียดชัง Kaepernick ลงรูปและวิดีโอเผาสินค้า Nike
- หุ้น Nike ร่วงลงไป 3% หลังเกิดกระแสแม้กระทั่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกายังโจมตี campaign นี้ผ่าน Twitter
- สำนักข่าวและสื่อทั่วโลกรายงานข่าวเรื่องกระแสต่อต้านนี้ ซึ่งมีการประเมินว่าได้พื้นที่สื่อทั่วโลกมูลค่ามากกว่า 160 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
- ผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความเห็นว่า Nike คำนวนไว้แล้วว่าจะต้องเจออะไรบ้าง และเลือกที่จะยืนหยัดต่อความเชื่อเรื่องความหลากหลายทางด้านชาติพันธ์ุและการไม่เลือกปฏิบัติ ตรงกับสโลแกน “Just Do It” ที่ยืนยาวมาหลายสิบปี
- ที่สำคัญ Nike น่าจะคาดการณ์ไว้แล้วว่ากระแสลบจะอยู่ไม่นาน แต่ภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์ที่เลือกยืนหยัดอยู่ข้างกลุ่มคนรุ่นใหม่จะจีรังกว่า ฝ่ายที่ตามกระแส #boycottnike ก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลักระยะยาวของ Nike กลุ่มคนรุ่นใหม่และนักกีฬา ดารา และ influencers ต่างๆมากกว่าที่จะสร้างวัฒนธรรมต่อไปในอนาคตที่จะมี Nike อยู่ในนั้น
- ข่าวล่าสุด ระบุว่ายอดขายของ Nike เพิ่มขึ้น 31%
Credit:
https://thestandard.co/nike-react-to-colin-kaepernick-ad-campaign/
https://ahead.asia/2018/09/06/colin-kaepernick-nike-campaign/
https://www.theguardian.com/sport/2018/sep/08/colin-kaepernick-nike-ad-sales-up