เคยมั้ย…เวลาหยิบเสื้อยืดออกจากตู้ เราไม่ได้มองแค่ “ลาย สี หรือแบรนด์” แต่เรามองว่า… วันนี้ร้อนมั้ย? ต้องเดินเยอะมั้ย? อยากดูดี แต่ไม่อยากเหนื่อย อยากสบาย แต่ไม่อยากโทรม…นี่แหละคือ Insight ตั้งต้นของ TWF Agency ให้กับ Double Goose แบรนด์เสื้อยืดในตำนานที่ใคร ๆ ก็จำได้
แต่ก่อนที่จะเห็นแคมเปญนี้…คุณหยิบเสื้อห่านคู่มาใส่ครั้งสุดท้ายตอนไหน?
จาก “เสื้อที่แม่ซื้อให้” → สู่ “เสื้อที่เราเลือกหยิบใส่เอง”
นี่คือแบรนด์ที่มีคุณภาพจริง มีประวัติยาวนานจริง “ที่ทุกคนต้องมีในตู้เสื้อผ้า ” TWF Agency เลยช่วยห่านคู่ตั้งโจทย์ ใหม่กับตัวเองว่า ห่านคู่ในชีวิตกับคนรุ่นปัจจุบัน เราต้องเข้าใจ “ชีวิตเขา” ให้ได้ก่อน และคำตอบของ Insight นี้ มันก็ไม่ได้ซับซ้อนเลย คือ “เราอยู่ในเมืองไทย เมืองร้อน เมืองรีบ เมืองที่ชีวิตไม่มีเวลาวางแผนล่วงหน้า”
ไม่ใช่แค่เสื้อยืดธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็นเหมือน Sidekick ในชีวิตจริง
Double Goose แบรนด์เสื้อยืดในตำนานอย่างห่านคู่ กลายมาเป็นเสื้อยืดที่บอกว่า “ใส่แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นจริง ๆ” ด้วยคอนเซปต์ “Superhero Sidekicks” เสื้อยืดดีๆที่คอยอยู่เคียงข้างเราและพร้อมลุยกับเราได้ทุกวัน (save the day) แค่มีเสื้อดี ๆ อยู่ข้างกายตลอดวัน — ก็พร้อมลุยทุกเรื่องแล้ว เสื้อยืดที่ใส่แล้ว…ชีวิตดีขึ้นจริง ๆ ดูวิดีโอแคมเปญหลัก แล้วจะเข้าใจ
“ ใส่แค่เสื้อห่านคู่ จะออกไปไหนได้” punchline ที่ถามย้อนสังคม แล้วค่อย ๆ เฉลยด้วย VDO ที่เล่าว่า เสื้อยืดหนึ่งตัวพาเราไปได้ไกลกว่าที่คิด ตั้งแต่หนุ่มไบค์เกอร์ แคมป์ปิ้ง ดีเจสาว เล่นกีฬากลางแจ้ง ไปจนถึงคนทำงานที่ต้องดูดีตั้งแต่เช้ายันเย็น ไอเดียเบื้องหลังทั้งหมดสะท้อนชีวิต และ Insight แบบคนไทย ที่ต้องการทั้ง comfort, confidence, และ convenience ในเสื้อยืดตัวเดียว และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ Double Goose คือ The Intelligent Choice ของคนรุ่นนี้
เสื้อยืดห่านคู่ ไม่ใช่แค่ใส่สบาย แต่ “ดีต่อใจ ดีต่อชีวิต”
คำว่า “คราฟต์” ในแคมเปญนี้ ไม่ได้หมายถึงแฟชั่นหรู หรือดีไซน์จัด แต่มันคือ “ความตั้งใจ” ในทุกรายละเอียดเพื่อรับมือกับชีวิตจริง
- Plus+ สำหรับวันที่ต้องดูดี แต่ไม่อยากดูเครียด
- Active Dry สำหรับวันที่ต้องลุยเจอแดดทั้งวัน
- Ordinary สำหรับทุกวันที่มีหลายโหมด หลายบทบาท
เสื้อยืดห่านคู่ ไม่ใช่แค่เสื้อยืดทั่วไป แต่มันคือเสื้อที่เข้าใจชีวิต และ Insight ของคนไทยที่ “ชิลก็จริง แต่พิถีพิถันสุด ๆ”
ให้คนดูอิน เพราะเห็นตัวเองในทุกวันที่ต้องเลือกใส่
TWF Agency เลือกที่จะสื่อสารผ่าน KOL ที่ไม่ต้อง Mass มาก หรือใช้ KOL จำนวนเยอะๆ แต่ต้องเป็นคนที่ “มีตัวตนที่คนอินได้” ตรง Insight คนรุ่นใหม่ และ “ใช้ชีวิตให้ดู” คนดูเลยไม่ได้แค่เห็นเสื้อยืดบนตัว แต่ “เห็นตัวเองในโมเมนต์นั้น” ผ่านคนที่ใช้จริง ในบริบทของชีวิตที่ใกล้กันจริง ๆ แบบที่คนดูรู้สึกว่า “ฉันก็มีวันที่ต้องเลือกเสื้อแบบนี้เหมือนกัน”
ไม่หยุดแค่ออนไลน์ พาแบรนด์ไปในย่านเก่า..สู่คอมมูนิตี้ใหม่ที่มีชีวิต
หนึ่งในไฮไลต์ที่พีคที่สุดคือ Project Takeover ที่ “ประตู 100 ปี ทรงวาด” บริเวณจุดเริ่มต้นโรงงานแรกของห่านคู่ ที่ TWF Agency จับมือกับ Mad Arai-D เปลี่ยนพื้นที่เก่าให้กลายเป็นจุด “Reconnect” กับแบรนด์ และสร้าง “ประสบการณ์” ที่ทำให้คนรู้สึกว่าเสื้อยืดตัวนี้น่าหยิบ…เพราะมันมีความหมายทั้งถ่ายรูป ทำกิจกรรม และใส่เสื้อรุ่นพิเศษที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ และเมื่อแบรนด์รู้สึกจริง…คนรุ่นใหม่ก็ “รับรู้ได้จริง ๆ”
แบรนด์ที่คนรู้จัก ก็ไม่เท่ากับแบรนด์ที่คนเลือกใช้เอง
Double Goose ไม่ได้แค่กลับมาให้คนจำได้อีกครั้ง แต่ทำให้คนรุ่นใหม่อยาก “หยิบใส่เอง” เพราะเข้าใจชีวิตจริง ๆ และทั้งหมดนี้ คือผลลัพธ์ของการออกแบบแคมเปญโดย TWF : Performance Creative Agency เพื่อช่วยให้แบรนด์ขยับเข้าใกล้ผู้บริโภคได้อย่างเป็นธรรมชาติ — ทั้งในเชิงอารมณ์ และเชิงผลลัพธ์
หากคุณกำลังมองหาแนวทางรีเฟรชแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับชีวิต และ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย และวัดผลได้จริง TWF Agency พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่ร่วมลุยไปกับคุณ สามารถดูบริการเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/4lhzUWD หรือติดต่อได้ที่ https://bit.ly/408bMNU
