แนะนำข้อมูลพื้นฐานการทำการตลาดดิจิตอล (Digital Marketing 101)

สำหรับนักการตลาดหรือเจ้าของกิจการที่เพิ่งเริ่มต้นทำการตลาดด้านดิจิตอลอาจจะยังงงๆเกี่ยวกับเครื่องมือ การวัดผล และคำศัพท์ต่างๆของวงการนี้ บทความนี้รวบรวมข้อมูลหลักๆเกี่ยวกับการตลาดดิจิตอลไว้ในที่เดียวเพื่อนำไปอ้างอิงหรือพูดคุยกับ agency หรือ developer ที่จะมาช่วยดูแล campaign การตลาดได้ต่อไป

Domain name:
เปรียบเทียบเหมือนบ้านเลขที่ของบ้านคุณ domain name คือข้อมูลบ่งบอกที่อยู่เว็บไซต์ของคุณ เช่น yourcompany.com ซึ่งหลายๆคนยังไม่เข้าใจความสำคัญของ domain name ขอแนะนำว่าคุณควรเป็นเจ้าของ domain name ของตัวเอง นั่นหมายถึงเป็นผู้จดและชำระเงินรายปีกับผู้ให้บริการโดยตรงเอง อย่าผูก domain name ไว้กับ agency หรือบริษัทออกแบบเว็บไซต์ภายนอก หรือแม้แต่พนักงานคนใดคนหนึ่ง เรื่องนี้ผมเห็นลูกค้าเจ็บปวดมาเยอะแล้ว ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2014

domain name in browser

IP address:
หมายเลขใน Internet ที่จะบ่งบอกตำแหน่งของผู้ใช้งานทุกคนและเว็บไซต์ทุกเว็บไซต์ เมื่อคุณเชื่อมต่อ Internet จากที่ใดก็ตาม ระบบจะมอบหมาย IP address ให้คุณเองทันที

Web hosting:
เปรียบเสมือนโกดังเก็บของ เป็นที่เก็บข้อมูลทุกอย่างของเว็บไซต์ หรือ app ของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของ web hosting server เอง คุณสามารถว่าจ้างเข้าใช้งานผ่านบริษัทข้างนอกได้ ขนาดและ spec ต่างๆขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ การเปลี่ยนผู้ให้บริการ web hosting ทำได้ไม่ยากหากคุณมีคนช่วย

FTP
ย่อมาจาก File Transfer Protocol ซึ่งคือวิธีการอัพโหลดไฟล์ต่างๆขึ้นไปที่ web hosting สำหรับใช้งานของเว็บไซต์หรือ app ปกติคุณจะได้ข้อมูล username และ password เพื่อเข้า FTP ที่ web hosting ของคุณ ข้อมูลนี้สามารถขอจากผู้ให้บริการ web hosting ของคุณได้เลย คุณจะต้องมอบข้อมูลนี้ให้กับทีมที่จะออกแบบและ develop เว็บไซต์ให้คุณ

Control Panel
เป็นระบบที่ไว้จัดการ web hosting ของคุณ เช่นเดียวกับ FTP คุณจะได้ข้อมูล username และ password เช้า Control Panel โดยในระบบการจัดการนี้ คุณสามารถจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับ web hosting ของคุณได้ทั้งหมด

Browser
Google Chrome, Safari, FireFox, Internet Explorer คือ application บน computer, notebook, tablet, smart phone ในการใช้งาน Internet

Responsive website
เว็บไซต์ที่ถูกออกแบบและพัฒนาให้สามารถปรับการแสดงผลหน้าตาตัวเองได้ตามขนาดของหน้าจอที่เปิดเข้าดูได้ทันที

Responsive website design
image credit: http://www.tekmiss.com/do-you-have-a-google-mobile-friendly-website/

Adaptive website
เว็บไซต์ที่เลือกการแสดงผลให้เหมาะสมกับ device ที่เข้าดู (ไม่สามารถปรับการแสดงผลหน้าตาตัวเองได้ทันทีเมื่อขนาดหน้าจอมีการเปลี่ยนแปลง)

Responsive vs Adaptive website design
image credit: http://www.dealer.com/insights/articles/responsive-adaptive-seamless-mobile-strategy/

(ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง responsive / adaptive website: http://thenextweb.com/dd/2015/09/01/is-adaptive-better-than-responsive-design/)

Mobile site
เว็บไซต์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเข้าดูผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ (โดยปกติจะไม่รวม tablet)

Campaign site
เว็บไซต์ที่ทำขึ้นเพื่อรองรับ marketing หรือ branding campaign ต่างๆ

Microsite
เว็บไซต์ที่ทำขึ้นเพื่อใช้งานควบคู่ไปกับเว็บไซต์หลักซึ่งข้อมูลและเหตุผลของการนำมาใช้งานอาจจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หลักก็ได้ campaign site ก็สามารถมองเป็น microsite ประเภทหนึ่ง

Native App
แอพบนมือถือของ iOS หรือ Andriod ที่ต้องใช้งานผ่านการดาวน์โหลดและติดตั้งแอพลงเครื่องเท่านั้น ปกติจะผ่าน App store หรือ Play store

Mobile Web App
คือ mobile site ประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบให้มีการใช้งานเหมือนกับ native app ซึ่งต้องเปิดผ่าน browser ของเครื่องเหมือนเวลาเข้าดูเว็บไซต์ทั่วไป ราคาและระยะเวลาในการผลิต mobile web app จะน้อยกว่าทำ native app แต่ข้อจำกัดในการเชื่อมต่อกับระบบของเครื่องจะมีมากกว่า

Landing Page
หน้าเว็บไซต์ที่ตั้งไว้ให้คนกดเข้ามาจากโฆษณาที่ลงไว้หรือการโปรโมทอื่นๆที่ไม่จำกัดเฉพาะออนไลน์เท่านั้น

Google Analytics (GA)
เครื่องมือเก็บสถิติคนเข้าชมเว็บไซต์ของ Google ซึ่งเราจะสามารถดูได้ตั้งแต่เหล่งที่มาว่าคนเข้ามาจากช่องทางไหน (traffic source/referral) มีจำนวนเท่าไหร่ (sessions/visitors) ดูนานเท่าไหร่ (time per session) เข้าชมกี่หน้า / ดูหน้าไหนบ้าง (page view) เข้ามาแล้วออกทันทีเท่าไหร่ (bounce rate) เข้ามาแล้วชมหน้าไหนบ้าง ออกจากเว็บไซต์เราตอนอยู่หน้าไหน และข้อมูลเกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งยิ่งถ้าเว็บไซต์เป็น e-commerce จะดูรายละเอียดเรื่องต่างๆที่เชื่อมโยงกับยอดขายได้อีกมากมาย

Facebook Ads
โฆษณาบน Facebook ซึ่งเป็นวิธีการโฆษณาที่ได้ผลจริงมากที่สุดในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ เมื่อเทียบกับสื่อโฆษณาดิจิตอลอื่นๆ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Facebook Ads มอบผลตอบรับที่ดีนั้นมาจาก 2 เรื่อง คือ 1) จำนวนผู้ใช้งาน Facebook และระยะเวลาการใช้งานต่อวัน 2) ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มคนดูที่ต้องการได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ (target audience) เนื่องจาก Facebook เป็นระบบที่ผู้ใช้งานต้อง login เข้ามาใช้งานทุกครั้ง ทำให้ระบบสามารถเก็บข้อมูลความสนใจผู้ใช้งานทุกคนได้

SEM
Search Engine Marketing หรือเรียกว่า Search Ads หรือ AdWords คือการลงโฆษณาในหน้าผลลัพธ์การค้นหาของ Google ซึ่งผู้ลงโฆษณาจำเป็นต้องมีเว็บไซต์หรือ Facebook page รองรับเมื่อคนกดดูโฆษณา การทำ SEM ถือว่าเป็นการดึงผู้บริโภคที่กำลังหาข้อมูลสินค้าและบริการนั้นๆอยู่ ดังนั้นการเข้าถึงผู้บริโภคในขั้นนี้ถือว่าสำคัญมากๆเพราะเป็นช่วงที่กำลังสนใจค้นหาจริงๆ ต่างจากการโฆษณาแบบอื่นที่ถึงแม้จะเข้าถึงคนที่มีความสนใจอยู่แต่อาจจะไม่ใช่ช่วงที่กำลังตัดสินใจซื้อ

SEM by Google
image credit: https://adwords.google.com/home/how-it-works/search-ads/#?modal_active=none

SEO
Search Engine Optimization คือวิธีการที่ทำให้เว็บไซด์เราติดอับดับต้นๆใน Search engine (Google) ในตำแหน่งที่ไม่ซื้อโฆษณา ปกติการทำ SEO จะแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือ on-site SEO กับ off-site SEO ส่วน on-site คือการทำให้เว็บไซต์เป็น search engine friendly เช่นการใส่ meta tag และมี keywords ที่สำคัญในเนื้อหาต่างๆ ส่วน off-site คือการทำงานในหลายๆวิธี นอกเว็บไซต์เพื่อช่วยการสร้าง traffic และความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ การทำ SEO สำหรับบาง service จะมีค่าบริการสูงและต้องทำอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ off-site ต่างจาก SEM ที่เราสามารถกำหนดงบได้เองและวัดผลได้อย่างชัดเจน ก่อนจะตัดสินใจทำ SEO แนะนำให้อ่านบทความนี้

SEO Diagram

Ads Network
เครือข่ายแบนเนอร์โฆษณาที่เราสามารถเลือกลงโฆษณาตามความสนใจของผู้อ่านหรือประเภทของเนื้อหาในสื่อที่จะไปลงได้ แต่ไม่สามารถระบุเจาะจงเฉพาะที่ใดที่หนึ่งได้ Ads Network มีให้เลือกหลายเจ้า ที่คนส่วนใหญ่รู้จักคือ Google Display Network (GDN)

YouTube Ads
โฆษณาบน YouTube ซึ่งสามารถเลือกลงโฆษณาตามความสนใจของผู้ชมวิดีโอหรือประเภทของเนื้อหาได้ และมีหลายรูปแบบการนำเสนอให้เลือกใช้ ข้อมูลเพิ่มเติมตามนี้

edit3

Email Marketing
วิธีการเข้าถึงลูกค้าได้ตรงที่สุดและเป็น digital marketing  แบบเบสิคที่สุด ซึ่งเมื่อนำไปปรับใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม Email Marketing จะให้ผลตอบรับที่ดีจนถึงดีมากเทียบกับ social media ต่างๆ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง Email Marketing ใน blog ที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2014 ได้ที่นี่

CTR 
Click through Rate เปอร์เซ็นต์เปรียบเทียบสัดส่วนจำนวนครั้งที่คนเห็นต่อจำนวนครั้งที่คนกด เช่น หากมีคนเห็นโฆษณาจำนวน 100,000 ครั้งและมีคนกดโฆษณานั้นจำนวน 200 ครั้ง นั้นเท่ากับ CTR 0.2%
CPC
Cost per Click ราคาเฉลี่ยงบที่ลงโฆษณาทั้งหมดต่อจำนวนครั้งที่คนกดโฆษณา เช่น หากลงงบไป 150,000 บาท และมีคนกด 2,000 ครั้ง CPC เท่ากับ 75 บาท (75 THB/click)

CPV
Cost per View ซึ่งส่วนใหญ่จะหมายถึงการชมวิดีโอ ราคาเฉลี่ยงบที่ลงโฆษณาทั้งหมดต่อจำนวนครั้งที่คนดูวิดีโอโฆษณานั้นๆ เช่น หากลงงบไป 200,000 บาท และมีคนดู 150,000 ครั้ง CPV เท่ากับ 1.33 บาท (1.33 THB/view)

CPM 
Cost per Impression ซึ่งส่วนใหญ่นับขั้นต่ำที่ 1,000 impression ราคาเฉลี่ยงบที่ลงโฆษณาทั้งหมดต่อจำนวน 1,000 ครั้งที่โฆษณานั้นถูกแสดงขึ้นมาหรือเรียกว่านับเป็นจำนวนครั้งที่ “คนเห็น” เช่น หากลงงบ 150,000 บาทแล้วมีคนเห็น 800,000 คน CPM เท่ากับ 187.50 บาท

CPE 
Cost per Engagement ราคาเฉลี่ยงบที่ลงโฆษณาทั้งหมดต่อจำนวนครั้งที่คนเข้ามา engage กับโฆษณา เช่น หากลงงบไป 150,000 บาท และมีคน engage 100,000 ครั้ง CPE เท่ากับ 1.50 บาท

CPR
Cost per Reach หรือ Unique impression หมายถึงราคาเฉลี่ยงบที่ลงโฆษณาทั้งหมดต่อจำนวนคนที่โฆษณาถูกเข้าถึง โดยที่จำนวนคนนี้จะไม่ซ้ำกัน ไม่ใช่จำนวนครั้งเหมือน CPM

Unique XXX
เช่น Unique visitor, unique view, Unique impression, Unique click หมายถึงการนับจำนวนคนที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่นำเสนอและก่อให้เกิดการเก็บค่าต่างๆโดยที่ไม่ซ้ำคนกันเลย ปกติการจะ track ตัวเลข Unique ได้นั้นจำเป็นต้องอ้างอิงด้วยข้อมูลที่สามารถจำแยกบุคคลได้ เช่น Facebook account,member account, Google account

LINE Official Account (OA)
เป็น LINE account ที่ brand ใช้เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคที่ add friend เข้ามา ส่วนใหญ่จะชวนคน add friend ผ่านการแจก sticker ทั้งนี้ค่าใช้จ่าย LINE OA และ sticker ถึงแม้ราคาค่อนข้างสูงแต่เทียบกับจำนวนคนที่จะสามารถสื่อสารได้โดยตรงถึง brand ส่วนใหญ่จึงยินดีที่จะใช้บริการ LINE OA

Line
image credit: http://www.etcentric.org/line-messaging-app-plans-to-start-subscription-music-service/

LINE @
เนื่องจาก LINE OA มีค่าใช้จ่ายสูง LINE@ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กมากกว่า สามารถทำได้เกือบทุกอย่างที่ LINE OA ทำได้ และสามารถพูดคุย 1 ต่อ 1 ได้เหมือน LINE account ของบุคคลทั่วไป แต่จะไม่สามารถแจก sticker หรือส่งข้อความได้เกิน 300,000 คน (เมื่อเกินจำนวนนี้ ทาง LINE จะคิดราคาค่าส่งต่อคน)

Ad Blocker
เครื่องมือสำหรับ browser ที่ใช้บริการได้ฟรี เมื่อลงแล้วตัว ad blocker จะปิดกั้น ads ทุกชนิดไม่ให้แสดงบน browser ของผู้ใช้ ยกเว้นว่าผู้ใช้ตั้งค่าไว้ให้เว็บไซต์นั้นๆสามารถแสดงโฆษณาได้หรือเป็นโฆษณาที่ดีลกับ Ad Blocker ไว้แล้ว

AdBlock

Native Ads
คล้ายกับบทความในนิตยสารที่มักจะผูกเรื่องเพื่อขายสินค้าหรือบริการโดยที่คนอ่านอาจไม่รู้สึกถูกขายเหมือนโฆษณาตรงๆ เพราะผู้อ่านรู้สึกได้ประโยช์นหรือความบันเทิงจากบทความนั้นๆ

Advertorials
บทความที่ถูกผลิตมาเพื่อให้ข้อมูลสินค้าหรือบริการอย่างชัดเจนแต่ยังคงความมีประโยชน์สำหรับให้ผู้อ่านทางใดทางหนึ่ง

Influencers
Influencers เป็นผู้ที่ถูกมองว่ามีอิทธิพลกับการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการให้กับผู้บริโภคทั่วไป ดังนั้น influencers จึงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเช่นดารา นักแสดง หรือคนที่มีคนติดตามจำนวนมากบนออนไลน์ (followers)

Bloggers
บุคคลที่เขียนรีวิวหรือบทความเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือหลายเรื่องที่ตัวเองถนัด และ bloggers ที่มีผู้ติดตามมาก จะสามารถเขียนริวิวโปรโมทหรือติชมสินค้าและบริการต่างๆได้ ประเภทของ bloggers ที่มีคนติดตามเยอะๆจะอยู่ในหมวดหมู่ ท่องเที่ยว ความงาม IT&Gadgets

Chatbot
เป็นกระแสที่พูดถึงอย่างมากในช่วงนี้ Chatbot เป็นบริการอัตโนมัติที่โปรแกรมสามารถตอบโต้คำถามของผู้สอบถามมาในช่องทาง Chat ต่างๆได้ โดยเฉพาะ Facebook messenger ทั้งนี้ปัจจุบันบริการ Chatbot ส่วนใหญ่ยังเป็นลักษณะแบบ keywords detection มากกว่าจะเป็น AI ที่เรียนรู้และเก็บข้อมูลประวัติคำถามคำตอบต่างๆและพัฒนาความสามารถตัวเองได้ การเป็น keywords detection หมายถึง ผู้ติดตั้ง Chatbot จำเป็นต้องมีลิสต์ของ keywords หรือประโยคคำถามที่คาดว่าผู้บริโภคจะสอบถามเข้ามา แล้วตั้งคำตอบตามลิสต์คำถามเหล่านั้นไว้ล่วงหน้า

Internet of Things (IoT) 
สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่เชื่อมต่อกับ Internet เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ที่ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานด้วยมือถือหรือ device อื่นๆได้ผ่าน Internet และเครื่องใช้เหล่านี้ยังสามารถอัพเกรดตัวเองหรือดึงข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องจาก Internet เพื่อปรับปรุงหรือซ่อมแซมตัวเองได้ ยกตัวอย่าง เครื่องปรับอากาศที่ผู้ใช้สามารถสั่งเปิดและตั้งอุณหภูมิไว้ก่อนที่จะเดินทางถึงบ้านหรือตัวเครื่องปรับอากาศเองสามารถปรับอุณหภูมิตัวเองได้ตามความเหมาะสมของอากาศด้านนอก

Internet of Things Diagram
image credit: http://industrialiot5g.com/20160628/channels/news/iot-investment-tag23

Related Posts