คำว่า Quantum ในความหมายทางวิทยาศาสตร์ทั่วไป หมายถึงการพัฒนาด้วยความรวดเร็วหรือในปริมาณที่มิอาจวัดได้ หรืออีกความหมายหนึ่ง คือการจำกัดความผลกระทบที่ไม่อาจอธิบายได้ด้วยแนวทางแบบเดิมๆ ถ้าให้แปลออกมาให้เป็นคำง่ายๆ และเข้าใจที่สุด ก็น่าจะเป็น “เร็ว ใหม่ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”
ซึ่งจะว่าไปก็คล้าย ๆ กับ digital marketing ในปัจจุบันเหมือนกัน ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนนักการตลาดหลายๆ คนก็วิ่งตามกันไม่ทันเลยทีเดียว
Quantum Marketing ถูกแนะนำโดย Raja Rajamannar (ราชา ราชมันนาร์) Chief Marketing Officer ของ Mastercard ที่เขียนหนังสือชื่อ Quantum Marketing: Mastering the New Marketing Mindset for Tomorrow’s Consumers ซึ่งเป็นหนังสือขายดี Wall Street Journal Bestseller ทำให้ Mr. Raja กลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลด้านความคิดของนักการตลาดทั่วโลกไปอีกคน
ตามการบัญญัติของ Raja การตลาดปัจจุบันมีทั้งหมด 5 paradigm (กระบวนทัศน์) ซึ่งคือ
1. Product Marketing การตลาดผลิตภัณฑ์
2. Emotional Marketing การตลาดเชิงอารมณ์
3. Data-Driven Marketing การตลาดเชิงข้อมูล
4. Digital & Social Marketing การตลาดดิจิทัลและโซเซียลมีเดีย
5. Quantum Marketing การตลาดควอนตัม
ปัจจุบันเราอยู่ใน paradigm ที่ 5 ซึ่งประกอบไปด้วย landscape อันที่น่าตื่นเต้นมากมาย เช่น
AI
ที่จะช่วยให้นักการตลาดใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะ AI จะสามารถอ่านข้อมูลอันมหาศาลที่มาจากหลากหลายที่มา ไปจนถึงสร้างข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ให้นักการตลาดหยิบจับไปใช้ได้เลย รวมถึงการสร้างข้อมูลแบบ real-time อีกด้วย
ด้วยพลังและความเร็วของ AI จะทำให้นักการตลาดรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวงจรการตลาดได้ทั้งหมด ตั้งแต่เก็บข้อมูล ทำความเข้าใจ วัดผล และ execution ได้ดียิ่งขึ้น
ไหนยังจะมีการใช้ AI ในการผลิต content ที่เราเริ่มเห็นแล้วตั้งแต่การเขียนเนื้อหาไปจนถึงการสร้างภาพทัดเทียมศิลปินระดับโลก
Blockchain
เมื่อพูดถึง blockchain คนส่วนใหญ่จะนึกถึง crypto currency หรือ bitcoin ที่ทำให้คนรวยเป็นมหาเศรษฐีกันแบบชั่วข้ามคืน และหมดตัวด้วยเช่นกัน
แต่จริงๆ แล้ว blockchain สามารถถูกนำมาใช้ในการตลาดได้มากมายเลยทีเดียว หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดคือ การที่ blockchain จะมาช่วยเป็นตัว verify ว่าการที่ผู้ลงโฆษณาจ่ายเงินลงโฆษณาในสื่อ digital นั้น มีการลงโฆษณาเกิดขึ้นจริงไหม หรือแม้กระทั่งการตรวจสอบว่า คนที่เห็นและ click โฆษณา เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ bot เป็นต้น
5G
เทคโนโลยี่ 5G จะสร้างความแตกต่างของการสื่อสารและเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี่อื่นๆ อย่าง IoT (Internet of Things) ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ การ live ด้วย hologram และอื่นๆ อีกมากมายที่อาศัยความเร็วของการเชื่อมต่อกับ Internet
ต่อไปนักการตลาดจะสามารถใช้ VR หรือการนำเสนอแบบ 3D ในแบบ real-time หรือเก็บข้อมูลประมวลผลสัญญาณ จาก sensor ต่างๆ ที่เก็บพฤติกรรมผู้บริโภคในแบบ real-time เช่นเดียวกัน
นอกนั้นยังมีเทคโนโลยี่อื่นๆ อีกมากมายที่จะมาเสริม Quantum Marketing นี้ ซึ่งหลายๆ เทคโนโลยี่ก็เริ่มได้เห็นการนำมาประยุกต์ใช้กันพอสมควรแล้ว
- AR
- VR
- IoT เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น
- 3D Printing
- รถยนต์ไร้คนขับเชื่อมต่อ Internet
- Smart Speaker – Google Home, Alexa
- Wearable เทคโนโลยี่ อย่าง smart watch
- โดรนและหุ่นยนต์
อีกเรื่องสำคัญเลยคือ เรื่องข้อมูลมากมายไม่มีที่สิ้นสุด ที่จะได้มาจากหลากหลายแหล่งที่มารอบตัวผู้บริโภค ตั้งแต่ตัวเซนเซอร์ทุกประเภท IoT, smart watch, smart speaker, รถยนต์ไร้คนขับเชื่อมต่อ Internet ตามที่ได้กล่าวไป
ตัวเซนเซอร์เหล่านี้ เก็บข้อมูลทุกการเคลื่อนไหว ความรู้สึก และทุกการกระทำของผู้บริโภค หากนักการตลาดรู้ว่าจะนำข้อมูลควอนตัมเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างไร ก็จะทำให้พวกเขาเข้าใจผู้บริโภคได้ดีมากยิ่งขึ้นที่จะนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของพวกเขาในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนั่นเอง
ปิดท้าย Raja บอกว่า “อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทุกชิ้น คือเป็นอุปกรณ์ทางการตลาด”
อ่านต่อ Quantum Marketing ตอนที่ 2
