Data-Driven Marketing ต้องเป็นโปรเจ็คของฝ่ายการตลาดไม่ใช่ของฝ่าย IT
หนึ่งในเคสการทำ Data-Driven Marketing ที่คลาสสิคที่สุดและถูกกล่าวขวัญมาจนถึงปัจจุบันคือ เคสของห้างค้าปลีกเจ้าใหญ่ที่ชื่อว่า Target ในสหรัฐอเมริกา ย้อนไปปี 2012 คุณพ่อที่มีลูกสาววัยรุ่นท่านหนึ่งโวยวายไปที่ Target ว่าทำไมถึงส่งคูปองโปรโมชั่นสินค้าเด็กอ่อนมาให้ลูกสาววันรุ่นของตน คุณพ่อไม่พอใจเพราะคิดว่าการที่ Target ส่งคูปองของใช้เด็กอ่อนมาให้เหมือนเป็นการส่งเสริมให้ลูกสาวท้องก่อนวัยอันควรซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั่งคุยกับลูกสาวตัวเองจึงพบความจริงว่า ลูกสาวเพิ่งตั้งครรภ์จริงๆ เมื่อย้อนไปหนึ่งปีก่อนหน้า Target ได้สร้าง algorithm ที่สามารถคาดการณ์ได้ว่าลูกค้าผู้หญิงมีโอกาสจะตั้งครรภ์หรือไม่โดยอ้างอิงประวัติการซื้อสินค้าของลูกค้าคนนั้นๆ ระบบจะระบุตัวตนของลูกค้าทุกคนแล้วใช้ Big Data มาวิเคราะห์ว่าลูกค้าคนไหนมีแนวโน้มที่จะตั้งครรภ์ เมื่อระบุได้แล้วระบบก็จะส่งเรื่องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดส่งคูปองสินค้าเด็กอ่อนไปให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ต่อไป เรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เกือบ...